tag:blogger.com,1999:blog-26474561578715201232024-03-19T14:23:31.066-07:00แพทเทิร์นเสื้อผ้าสำเร็จรูปbabahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.comBlogger8125tag:blogger.com,1999:blog-2647456157871520123.post-12838173131684235182010-02-16T20:29:00.000-08:002010-02-16T20:35:34.416-08:00เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เป็นบทความที่ยอดเยี่ยมใช่มั๊ยละมีข้อมูลเท่านี้คุณก็สามารถเลือกแพทเทิร์นที่ถูกไซด์มาใช้ได้<br />แล้วค่ะ เรื่องต่อไปมันจะเป็นเรื่องของการแก้ไขแพทเทิร์น<br />ซึ่งไม่มีใครชอบแต่ก็ต้องทำเพราะใครเล่าจะหุ่นได้มาตรฐานเขา<br />เด๊ะๆ พอแก้ไขแพทเทิร์นแล้วก็จะเป็นการวางผ้า ตัดผ้า ส่วน<br />การเย็บนั้นต้องให้ไปอ่านวิธีทำเอง เขาแถมมากับแพทเทิร์นค่ะ<br /><br />ปล. เครดิตหนังสือที่ใช้อ้างอิงคือ Vogue Sewingbabahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2647456157871520123.post-46780322027060360162010-02-16T20:25:00.000-08:002010-02-16T20:28:19.149-08:007.ในซองมีอะไรอยู่บ้าง<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg_-iEBvglj_67yOMHylS48Y663gQiflCogwlwV-ZZ4jsNrdglbdT1L2WjjztH0Cl3hTUPLbXrQb-Rrv67ZL4YO9ctV_NNAe1vWpUbFV2QDWJonhuQB-c1ot46mOrlkwmih9RWCJOGoNY4/s1600-h/J5796349-8.jpg"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;width: 240px; height: 320px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg_-iEBvglj_67yOMHylS48Y663gQiflCogwlwV-ZZ4jsNrdglbdT1L2WjjztH0Cl3hTUPLbXrQb-Rrv67ZL4YO9ctV_NNAe1vWpUbFV2QDWJonhuQB-c1ot46mOrlkwmih9RWCJOGoNY4/s320/J5796349-8.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5439064493857370738" /></a><br /><br /><a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhTmySHCZFOEBrfK6M90YAwz4reohIRDMDvte1OFQaDek029i6MeL51gqQ8BQIyJKk36z9n1pRQG9eyD6qdZcVCsCWNXLCREMkXJ2m5cqGF0_5laz-d_7J9_dj_uiT9Z_S8aLBi3l1GP6Q/s1600-h/J5796349-6.jpg"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;width: 240px; height: 320px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhTmySHCZFOEBrfK6M90YAwz4reohIRDMDvte1OFQaDek029i6MeL51gqQ8BQIyJKk36z9n1pRQG9eyD6qdZcVCsCWNXLCREMkXJ2m5cqGF0_5laz-d_7J9_dj_uiT9Z_S8aLBi3l1GP6Q/s320/J5796349-6.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5439064073474625938" /></a><br />-แพทเทิร์นที่ทำด้วยกระดาษทิชชู่ <br /> เส้นสายสัญลักษณ์ต่างๆบนกระดาษแพทเิทิร์นมีความหมายทั้งสิ้น<br />1.เส้นเกรนผ้า (grainline) เราจะเรียกริมผ้าด้านที่ไม่ลุ่ยว่า ผ้าตามยาว<br />ปกติแล้วเราจะวางแพทเทิร์นให้เส้นเกรน ขนานไปตามริมผ้าตามยาวด้าน<br />ที่ไม่ลุ่ยนี้ นอกจากเขาจะสั่งเป็นพิเศษให้วางผ้าตามขวาง หรือ<br />วางผ้าทแยงมุมเราจึงจะทำตาม<br /><br />2.รอยตัดตามไซด์ต่างๆ (cutting line) เช่นไซด์ใหญ่สุดจะใช้เส้นทึบ<br />ไซด์เล็กลงมาใช้เส้นไข่ปลา เส้นพวกนี้มีความหนาของมันอยู่ ขอให้ผู้ใช้แพทเทิร์น<br />ตัดกระดาษเข้าไปในด้านในของเส้นเลย พูดง่ายๆคือตัดเส้นทิ้งไม่ให้เหลือหมึกพิมพ์<br />ถ้าตัดนอกเส้นจะมีผลต่อไซด์เล็กน้อย <br /> แพทเทิร์นสำเร็จบางบริษัทโดยเฉพาะของอเมริกาจะรวมความกว้าง<br />ของตะเข็บไว้แล้ว 5/8 นิ้ว หรือ 1.50 ซม.<br />ส่วนใหญ่แล้วแพทเทิร์นจากยุโรปจะไม่เผื่อตะเข็บให้ เราต้องวัดและวาดใส่เข้าไปเองที่เขาทำเช่นนั้นเพื่อความสะดวก<br />ระหว่างการแก้ไขแพทเทิร์น<br /><br />3.เส้นสำหรับปรับเปลี่ยนแก้ไขแพทเทิร์น (adjustment line)<br />สังเกตุง่ายๆว่าเป็นเส้นคู่ขนาน ถ้าเป็นเสื้อ ส่วนมากจะอยู่เหนือเอว<br />เพื่อหดหรือยืดแพทเทิร์นให้เหมาะสมกับ ความยาวจากปุ่มคอ ถึง เอว<br />บนแพทเทิร์นกางเกง หรือ กระโปรง ก็จะมีเส้นนี้เหมือนกันเพื่อพับ<br />ให้แพทเทิร์นสั้นลง หรือ ตัดต่อกระดาษให้แพทเทิร์นยาวขึ้น<br /><br />4. เส้นกลางหน้า กลางหลัง (center front / center back lines) คือเส้นกึ่งกลางตัวมีความสำคัญต่อการวางผ้า และ<br />การหาจุดวางกระดุม/รังดุม<br /><br />5. ตำแหน่งทบผ้า (fold line) จะได้ใช้ในช่วงของการเย็บผ้า<br />ควบคู่ไปกับการรีดผ้า เช่นบริเวณสาบเสื้อกลางตัว<br />6.ต่ำแหน่ง กระดุม และ รังดุม (buttons / buttonholes) ปกติแล้วเขาจะให้ตำแหน่งรังดุม/กระดุมมาสำหรับไซด์เล็กที่สุด<br />ไซด์อื่นที่ใหญ่กว่าจะต้องคำนวณเองจาก เม็ดกระดุม/รังดุม อันแรก<br /><br />7.สัญลักษณ์ วงกลมแล้วมีกากะบาทข้างใน หมายถึง ตำแหน่งของจุดอก<br />(bust point, apex) เส้นเอว และ เส้นสะโพก<br /><br />8.สัญลักษณ์วงเล็บสี่เหลี่ยมที่ด้านในเขียนว่า Fold ถ้าเป็นกระโปรงมักอยู่ตรงเส้นกลางหน้า กลางหลัง<br />แสดงว่าเราจะวางแพทเทิร์นนี้บนสันทบของผ้าก่อนตัด<br /><br />9.เครื่องหมายสามเหลี่ยมเล็กๆที่อยู่บนเส้นรอยตัด (cutting line) มีความสำคัญในขณะเย็บเราจะประกบ<br />ตำแหน่งสามเหลี่ยมนี้เข้าด้วยกัน แล้วจับตะเข็บเย็บ<br />เวลาตัดกระดาษเราจะตัดสามเหลี่ยมให้เว้าเข้าไป เวลาเราตัดผ้าเราจะขลิบเส้นตรงนิดหน่อยเข้าไปบน<br />ตะเข็บผ้าด้วย<br /><br />10.สัญลักษณ์พวก สามเหลี่ยม วงกลม เล็กๆ (แล้วแต่บริษัทจะใช้แบบไหน)ที่วางอยู่บริเวณต่างๆ<br />มีความหมายในขณะเย็บมาก เป็นการบ่งบอกว่า ตรงจุดไหนควรจะประกบพอดีกับจุดไหน เช่น<br />วงกลมเล็กๆบนเกล็ดกระโปรง (dart)หรือไม่ก็เป็นตัว<br />บ่งระยะ เช่นว่า ระหว่างสองจุดนี้ให้เย็บรูด จับจีบ ฯลฯ<br /><br />11.ตำแหน่งวางซิป (zipper placement)<br />ก็จะใช้สัญลักษณ์พวกกลมๆเล็กๆเช่นกัน<br /><br />12.เส้นความยาวเสื้อ กางเกง กระโปรง (hem line) ส่วนมากแพทเทิร์นจะเผื่อตะเข็บ<br />ให้เหมาะสมไว้แล้ว ถ้าเราไม่ชอบก็ปรับเปลี่ยนได้<br /><br />13.ชื่อ โค้ด ไซด์ และ เลขที่ ของแพทเทิร์น เช่น front A เลขที่ 1 หมายถึง ชิ้นหน้า แบบ A(บางครั้งแพทเทิร์นเดียวกันสามารถเลือกใช้ได้<br />หลายดีไซด์ view A , view B, view C ) นอกจากนี้ยังมีคำสั่งว่า ให้ตัดผ้าจริงกี่ชิ้น ผ้าซับในกี่ชิ้น บนสันทบหรือไม่<br />นับว่าส่วนนี้มีประโยชน์มากต่อการวางผ้า<br />ตัดผ้า และ การเก็บรักษาแพทเทิร์นbabahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-2647456157871520123.post-13878989711272774282010-02-16T20:24:00.001-08:002010-02-16T20:25:16.680-08:006. การเผื่อหลวม<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0ay_MjZCh8u6NzsabPIDvgy1GAWI2lwI0WawR27TtNzECifXi2nU0OETK8zPDvfLJ4DAZWcktqhw4-NQOLMs3MCMDihdRg1s_RdIJoxsPf3-iy9Gnk2HSOK8wMYD2SggwUh_sczLkHyI/s1600-h/J5796349-5.jpg"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 169px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEg0ay_MjZCh8u6NzsabPIDvgy1GAWI2lwI0WawR27TtNzECifXi2nU0OETK8zPDvfLJ4DAZWcktqhw4-NQOLMs3MCMDihdRg1s_RdIJoxsPf3-iy9Gnk2HSOK8wMYD2SggwUh_sczLkHyI/s320/J5796349-5.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5439063710126927730" /></a><br />การเผื่อหลวม (ease) หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยถึงศัพย์คำนี้ของการตัดเย็บเสื้อผ้า<br />เสื้อผ้าที่เราใส่นั้นมีการเผื่อหลวมเพื่อการเคลื่อนไหว ความสบาย แม้แต่แม่เสื้อ (sloper)<br />ที่นักเรียนเรียนเป็นตัวแรกนั้นก็ยังมีการเผื่อหลวมไว้<br />นิดหน่อย ไม่ได้รัดตัวแน่นแบบหายใจไม่ออก<br />แล้วดีไซด์เนอร์ก็จะมาใส่การเผื่อหลวม (designer ease) เพิ่ม<br />ขึ้นอีกแล้วแต่สไตล์เสื้อผ้านั้นๆ แต่ก็มีเหมือนกันที่ไม่มีการเผื่อหลวมเลย เช่นเสื้อเกาะอก<br />เสื้อที่มีเชือกผ้าผูกคอ (halter) เสื้อบางตัวจะมี negative ease ด้วยซ้ำ เช่นเสื้อยืดรัดรูป<br />จะตัดมาให้เล็กกว่าตัวคนใส่<br /><br />รสนิยมของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนชอบใส่เสื้อผ้าหลวมๆสบายๆ บางคนชอบใส่<br />เสื้อผ้าที่ฟิตตัวหน่อย แผ่นปกหลังของซองแพทเทิร์น ส่วนที่ 2 ที่ดิฉันอธิบายไว้ข้างต้น<br />จะบ่งบอกเรื่องนี้ไว้เป็นนัยๆ ถ้าคุณเจอคำดังต่อไปนี้ คุณก็สามารถจินตนาการได้ว่าเสื้อ หรือ<br />กระโปรง/กางเกง แบบนั้นจะออกมาในลักษณะไหน<br />close-fitting เสื้อผ้ารัดรูป เช่นชุดเกาะอก ชุดแต่งงาน<br />fitted เสื้อผ้าพอดีตัว เช่น ชุดกระโปรงเข้ารูป เขาจะเผื่อหลวมไว้ 3-4 นิ้ว<br />semi-fitted เสื้อผ้าเคลือๆตัว อย่างเสื้อจะเผื่อหลวมไว้ เกือบๆ 5 นิ้ว<br />loose-fitting เสื้อผ้าหลวมๆ เสื้อเผื่อหลวมไว้ไม่เกิน 8 นิ้ว<br />very losse-fitting เสื้อผ้าหลวมมากๆ เผื่อหลวมไว้มากว่า 10 นิ้วbabahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2647456157871520123.post-16759580617173702292010-02-16T20:21:00.000-08:002010-02-16T20:23:36.233-08:005. เทคนิคการใช้แพทเทิร์นหลายๆไซด์ที่มาในซองเดียวกัน หรือ ผสมกับซองอื่น<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiXWFU3IzBZnfVQ_TfvoPbq_fLmCiTNJrB-DHYrF-t3F7X4mhi7iGliEGsa2DOzPzZjI7_hqQvEgKysFMa6FgUY6qrRmFIey0F9jOm2dwnRYZNEtbowmKv8tFH7SJyD_qGhCEggT55N51Y/s1600-h/J5796349-3.jpg"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 240px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiXWFU3IzBZnfVQ_TfvoPbq_fLmCiTNJrB-DHYrF-t3F7X4mhi7iGliEGsa2DOzPzZjI7_hqQvEgKysFMa6FgUY6qrRmFIey0F9jOm2dwnRYZNEtbowmKv8tFH7SJyD_qGhCEggT55N51Y/s320/J5796349-3.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5439063186457632018" /></a><br /><br />ปกติแล้วเขาจะพิมพ์ไซด์หลายๆไซด์บนแพทเทิร์นเดียวกัน เช่น<br />8-10-12 ซึ่งทำให้เราสามารถแก้ไซด์แพทเทิร์นได้ง่าย<br />ถ้าเรามีช่วงอกไซด์ 8 เอวไซด์ 12 สะโพกไซด์ 10 เราก็สามารถใช้ดินสอเบลนเส้นต่างๆให้เข้ากับรูปร่างเราได้<br />(เบลน แปลว่า ทำให้กลมกลืน)<br /><br /> ถ้าผู้ใส่มีแผ่นหลังใหญ่ ก้นใหญ่ ก็ยังสามารถใช้แพทเทิร์นชิ้นหน้าของ<br />ไซด์ 8 แล้วใช้แพทเทิร์นแผ่นหลังของไซด์ 12 มาปรับให้เข้ากันได้ ดิฉันจะเขียนถึงวิธีการแก้ไขแพทเทิร์นในคราวต่อไป<br /><br /> แม้ว่าเราอาจชอบส่วนปกของแบบในซองหนึ่งแต่เราอาจจะไม่ชอบส่วนแขน<br />ของมัน เราก็ยังสามารถดึงเอาแขนจากซองอื่นมาใช้ร่วมกันได้ด้วย แต่ก็ต้องมี<br />การตรวจวัดรอบวงแขน และส่วนโค้งแขนเสื้อก่อนbabahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2647456157871520123.post-64485787624456679472010-02-16T20:15:00.000-08:002010-02-16T20:21:06.996-08:004. การเลือกขนาด/ไซด์การเลือกขนาด/ไซด์ (ดูรูปจากหัวข้อ 2 เลขกำกับที่ 3)<br />ก่อนอื่นเราต้องมีขนาด รอบอกสูง (chest) รอบอก (bust) เอว (waist) และ สะโพก (hip) ทั้งหลักนิ้ว<br />และ หลักเซ็นติเมตร อยู่ในกระเป๋าสตางค์ก่อน<br /><br />-แพทเทิร์นเสื้อสตรี รวมทั้ง กระโปรงชุด เสื้อชนิดต่างๆ แจ็กเก็ต เสื้อโค้ท<br />หาคัพ (cup) ของตัวเอง (เหมือนเสื้อชั้นใน) โดยการเอา รอบอก( bust) - รอบอกสูง (chest)<br /> ถ้าได้ผลต่าง 1 นิ้ว หรือน้อยกว่า ถือว่าอยู่ในคัพ A <br /> ผลต่าง 1 1/4" -2" เท่ากับ คัพ B<br /> ผลต่าง 2 1/4"-3" เท่ากับ คัพ C<br /> ผลต่าง 3 1/4"- 4" เท่ากับ คัพ D<br /> ผลต่าง 4 1/4"หรือมากกว่า ถือว่าคัพใหญ่กว่า D อาจเป็น E<br /><br /> เนื่องจากแพทเทิร์นมาตรฐานนั้นใช้ คัพ B คนที่มีคัพ A หรือ B คุณควรใช้ รอบอก (bust)<br />ในการเลือกไซด์ไปเลย ถ้าบนซองเขียนว่า รอบอก<br />30 1/2" ซึ่งตรงกับไซด์ 6 คุณก็ซื้อไซด์ 6<br /> แต่ถ้าคัพของคุณเป็นคัพ C หรือ มากกว่านั้น คุณควรใช้ รอบอกสูง (chest) แทนตัวเลข<br />รอบอก (bust)ในการเลือกไซด์ เช่น bust 33 chest<br />30 1/2" ซึ่งเป็นคัพ C คุณควรจะเลือก<br />แพทเทิร์นไซด์ 6 แทนที่จะใช้ไซด์ 10 หรือ 12 เพราะแพทเทิร์นไซด์ 6 จะฟิตบริเวณ<br />ไหล่ บ่าหน้า-หลัง คอ มากกว่า ส่วนบริเวณอก เอว สะโพก เราจะแก้แพทเทิร์นให้มัน<br />เหมาะสมทีหลัง ซึ่งทำง่ายกว่าการแก้แพทเทิร์นบริเวณ ไหล่ บ่าหน้า-หลัง และ คอ<br /><br />ส่วนผู้ที่ได้ตัวเลขออกมาครึ่งๆกลางๆอยู่ระหว่างไซด์ เช่น<br />ระหว่าง 6 กับ 8 ให้ถือเอาโครงสร้างกระดูกผู้ใส่เป็นหลัก<br />ถ้าโครงสร้างคุณเล็กๆบางๆ ก็เลือกใช้ต่ำกว่า คือ 6 ถ้ากระดูกโครงสร้างใหญ่ กระดูกใหญ่ก็เลือกแพทเทิร์น<br />ไซด์สูงกว่า คือ 8<br /><br />- แพทเทิร์นกระโปรง กางเกง<br />ให้ใช้ตัวเลขรอบเอว ของผู้ใส่เป็นหลัก เพราะการแก้แพทเทิร์นบริเวณเอว ขอบเอว<br />ซึ่งอาจมีลูกเล่นเป็นจีบ พลีต ต่างๆ จะแก้ยากกว่าส่วนสะโพก<br />เช่น ถ้าผู้ใส่มีรอบเอว 26 1/2" สะโพกแค่ 34 1/2" ก็ควรเลือกไซด์ 12 แทนที่จะเป็นไซด์ 10<br />อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ใส่มีรอบสะโพกที่มากกว่ารอบเอวตั้งแต่ 13 นิ้วขึ้นไป คุณควรจะ<br />เลือกไซด์ตามรอบสะโพกนั้นๆ แทนที่จะเลือกไซด์ตามรอบเอว แล้วจึงกลับไปแก้<br />รอบเอวถึงแม้จะทำได้ยากขึ้นก็ตาม<br />ส่วนใครที่จะตัดชุดคลุมท้อง คุณจะใช้รอบตัวก่อนการตั้งท้องเพื่อไปเลือกไซด์<br /><br />ส่วนสูงก็มีความหมาย....<br />ส่วนใหญ่แล้วแพทเทิร์นมาตรฐาน Misses' จะออกแบบมาสำหรับผู้มีส่วนสูง 165-168 ซม<br />(หน่วยนิ้วก็จะเป็น 5ฟุต5นิ้ว ถึง 5ฟุต 6นิ้ว) ถ้าใครโชคดีที่มีส่วนสูงประมาณนี้ ก็จะ<br />ไม่ต้องหด หรือ ยืด แพทเทิร์นเลย ช่วงปุ่มคอหลังถึงเอว (back waist length)<br />และ ช่วงสะโพกสูง-สะโพกต่ำ (hip length)จะพอดิบพอดี แต่ถ้าใครที่เตี้ยกว่านี้จะต้องแก้ไขแพทเทิร์น หรือไม่ก็ต้อง<br />หาซื้อแพทเทิร์นที่สร้างไว้สำหรับคนมีความสูง<br />157-163 ซ.ม. ซึ่งเรียกว่า Misses'Petites ซึ่งความยาวจากปุ่มคอหลังถึงเอวของ<br />แพทเทิร์นของคนตัวเล็กนี้จะสั้นกว่า<br />ของ Misses' 1 นิ้ว และช่วงสะโพกเล็ก<br />ถึงสะโพกใหญ่ ก็จะวัดได้แค่ 7 นิ้ว ซึ่งสั้นกว่าของMisses'2" นอกจากนี้ความยาวแขนเสื้อ<br />ก็จะสั้นลงไปตามสัดส่วนร่างกายด้วย<br /><br />ถ้าผ่านไปพบแพทเทิร์นสำหรับ Women's / plus size ขอให้ทราบไว้ว่าเขาสร้างมา<br />เพื่อผู้หญิงที่ท้วม แต่ยังรักษาความสูงมาตรฐาน 165-168 ซม อยู่ แพทเทิร์นพวกนี้<br />จะมีการเผื่อหลวมมากกว่าปกติ เพื่อความคล่องตัวbabahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2647456157871520123.post-36027329439695526762010-02-16T20:11:00.000-08:002010-02-16T20:14:25.519-08:003.มารู้จักกับรูปร่างและราคาของแพทเทิร์นกันดีกว่าค่ะ ^^1. เลขโค้ดของแพทเทิร์น รูปร่าง และ ราคา <br />รูปสามเหลี่ยมที่ฐานอยู่ด้านบน หมายถึงผู้ที่มีช่วงอกใหญ่/ไหล่กว้าง แต่สะโพกเล็ก<br />รูปสามเหลี่ยมธรรมดาคือ ผู้ที่มีอกเล็ก/ไหล่แคบ แต่สะโพก/ต้นขา ใหญ่<br />รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าคือ ผู้ที่มีส่วนอกและสะโพกเท่ากันแต่เอวหนา <br />แพทเทิร์นซองนี้จะเหมาะกับทั้ง 3 รูปร่างดังที่ว่าไว้<br />นอกจากนี้บนหัวมุมด้านขาวฟากภาษาฝรั่งเศส ยังเรทความยากง่ายของการเย็บดีไซน์นั้นไว้ด้วย เช่น easy ,<br />average, difficult<br />2. จารนัยถึงลายละเอียดของดีไซด์นั้นๆ เพราะเขาไม่สามารถใส่รายละเอียดทั้งหมดลงในภาพวาด/รูปถ่ายได้<br />คำแรกๆเลยเขาจะบอกว่าเขาดีไซน์ให้เสื้อผ้า<br />เป็นแบบรัดรูป พอดีตัว หลวมน้อย/มาก (การเผื่อหลวม / ease ) ซึ่งตรงนี้จะสำคัญต่อการแ้ก้ไขแพทเทิร์นเพื่อการฟิตติ้งมาก<br />ดิฉันจะเขียนอธิบายเพิ่มเติมในตอนหน้า <br />3. ตารางไซด์ อก เอว สะโพก เช่น แพทเทิร์นมาตรฐาน<br />ไซด์ 6 จะสร้างมาจาก อก 30 ½ เอว 23 สะโพก 32 ½<br />(แพทเทิร์นอเมริกัน หน่วยเป็น นิ้ว ของยุโรปจะเป็นเซ็นติเมตร)<br />4.อุปกรณ์ที่ต้องใช้ เช่น กระดุม ซิป ฯลฯ<br />5.ผ้าที่เหมาะสมกับแบบที่ดีไซน์เนอร์จินตนาการไว้ ถ้าเขาเขียนไว้ว่า<br />ต้องใช้ผ้ายืดเท่านั้น (knit only) เราก็ไม่ควรจะดื้อดึงไปใช้ผ้า<br />ทอธรรมดา เนื่องจากแพทเทิร์นแม่แบบ<br />ของผ้ายืดกับผ้าทอนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง <br />6.ขนาดความกว้างยาวของผ้าที่ควรซื้อ เขาจะบอกมาให้เสร็จสรรพ<br />รวมถึงผ้าซับใน ผ้า interfacing (ที่มีกาวไว้ด้านหนึ่ง<br />รีดบนผ้าจริงของเราเพื่อให้อยู่ทรง เช่น ผ้ารองปก ขอบกระโปรง/กางเกง)<br />7. ขนาดความยาวของเสื้อ ความยาวกระโปรง หรือ กางเกง เมื่อเย็บเสร็จแล้ว ตรงนี้จะมีความหมายต่อเราในกรณีที่เรามีส่วนสูง ไม่เท่ามาตรฐานเขา<br />( 168 ซม)เราก็จะทำการแก้ไขแพทเทิร์นให้มันเหมาะกับส่วนสูงของเรา<br />8.ภาพสเก็ตช์ด้านหลังของแบบ <br /><a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjEaaPb-6nQveJLMi27uIibujYYDTURwmzdHt0GjmmnhdyG35IdzZyeYBGEOHIQNSM0GkVwn4EM-zwVjqrBjK7cSvvyy_k4exgTyR-UQNaA1hRiyObHHUfGu9m-ZMvZSabp7Pa1NVE1Sco/s1600-h/J5796349-1.jpg"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;width: 240px; height: 320px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjEaaPb-6nQveJLMi27uIibujYYDTURwmzdHt0GjmmnhdyG35IdzZyeYBGEOHIQNSM0GkVwn4EM-zwVjqrBjK7cSvvyy_k4exgTyR-UQNaA1hRiyObHHUfGu9m-ZMvZSabp7Pa1NVE1Sco/s320/J5796349-1.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5439059850210006210" /></a>babahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2647456157871520123.post-69304259704123888092010-02-16T20:03:00.000-08:002010-02-16T20:14:05.688-08:002.คู่มือการใช้แพทเทิร์นสำเร็จรูปแบบเป็นซองๆ<a onblur="try {parent.deselectBloggerImageGracefully();} catch(e) {}" href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi3U4aDHy6llix1xeQsPzi_wUrMF4s55dbzJrCad95BnO-wL11kBXxyn5c_-YdMVC_AKL1FTAG7g4lcDB8MYpdvSrQ2kWZxwVAtw9gq7t6GlKW7kpjOP6zCkDUR3Ta3xyWRTqWOtEj6Tiw/s1600-h/J5796349-0.jpg"><img style="cursor:pointer; cursor:hand;width: 320px; height: 240px;" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi3U4aDHy6llix1xeQsPzi_wUrMF4s55dbzJrCad95BnO-wL11kBXxyn5c_-YdMVC_AKL1FTAG7g4lcDB8MYpdvSrQ2kWZxwVAtw9gq7t6GlKW7kpjOP6zCkDUR3Ta3xyWRTqWOtEj6Tiw/s320/J5796349-0.jpg" border="0" alt=""id="BLOGGER_PHOTO_ID_5439058557423087762" /></a><br />ปกติแล้วในบ้านเรา ถ้าใครสักคนอยากจะตัดเสื้อผ้าใส่เอง คนนั้นจะต้องมีความรู้เรื่องการสร้างแพทเทิร์นเป็นอันดับแรก ซึ่งส่วนมากก็ต้องไปเรียน<br />ในสถานศึกษาเป็นเรื่องเป็นราว บ้างก็ตั้งใจเรียนจนจบ บ้างก็ท้อถอยตั้งแต่เดือนแรกๆ<br />เพราะการเรียนสร้างแพทเทิร์นไม่ใช่ของง่ายๆเลย ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่เลิกเรียนเสียกลาง<br />คันทิ้งค่าเรียนเป็นหมื่นๆเพราะยิ่งเรียนยิ่งยากและไม่สามารถนำ<br />ไปใช้ได้สักที<br /><br />เมื่อ 1998 ผู้เขียนโยกย้ายถิ่นฐานมาอยู่ต่างประเทศ ได้เห็นแพทเทิร์นสำเร็จรูปของ เสื้อผ้าทั้งบุรุษ สตรี เด็ก ของตกแต่งบ้าน เช่น ผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียง กระเป๋าผ้า มีแม้กระทั่งแพทเทิร์นเสื้อผ้าตุ๊กตาออกวางขายในร้านขายผ้า ความรู้สึกแรกคือ ตื่นเต้น มันแปลกใจ แปลกตาไปหมด เป็นอะไรที่เปลี่ยนโลกทัศน์ของการเย็บผ้าไปเลย ที่แปลกใจเพราะว่าผู้เขียนไม่เข้าใจว่าเขาสามารถทำแพทเทิร์น<br />ให้เข้ากับคนเป็นล้านๆคนซึ่งรูปร่างไม่เท่ากันสัก<br />คน ได้อย่างไร เห็นดังนั้นก็ต้องทดลองกันหน่อย วิธีการซื้อก็ง่ายๆ แค่เปิดแคทตาล๊อคเลือกแบบ ส่วนมากร้านขายผ้าจะรับแพทเทิร์นของบริษัท แมคคอล บัทเตอร์ริค ซิมพลิซิตี้ และ โวค มาขายซึ่งตอนนี้ได้รวมเป็นบริษัทเดียวกันแล้ว คนอเมริกันจะแอบเรียกว่า Big 4<br />เมื่อเลือกได้แบบที่พอใจแล้วต่อมาก็เลือกขนาดที่เหมาะกับผู้ใส่ ตรงนี้แหละที่เกิดเป็น<br />ปัญหา เพราะไม่รู้จะเลือกขนาดไหนดี ในเมื่อคนขาย และ คนที่ผู้เขียนรู้จักก็ไม่ได้เย็บเสื้อผ้าใส่เอง เมื่อดูขนาดที่เขาบอกบนซองและเทียบกับรูปร่าง<br />ตัวเองเท่าที่จำได้แล้ว ผู้เขียนก็คว้าไซด์ 12 มาเลย เสื้อที่ตัดด้วยไซด์ 12 ก็เป็นอันว่าใส่<br />ไม่ได้มันใหญ่เกินไป แต่กระนั้นก็ไม่คิดว่าต่อไปจะซื้อไซด์เล็กลง หรือนำแพทเทิร์นไซด์<br />12 มาลดขนาด ผู้เขียนสรุปลงไปเลยว่าแพทเทิร์นสำเร็จรูปมันไม่เข้าท่า มันทำให้ใหญ่ๆเข้าว่ากะว่าใครๆก็้ใส่ได้ถ้าใครอยากได้เสื้อ<br />เข้ากับรูปร่างดีๆต้องสร้างแพทเทิร์นเอง<br /><br />ผู้เขียนจึงกลับมาง้อการสร้างแพทเทิร์นเองอีกโดยอ้างอิง<br />จากสมุดจดที่อาจารย์บังคับให้จดและทำแพทเทิร์นตัวย่ออย่างดี แต่ความที่เรียนไปแค่แพทเทิร์นแม่แบบ<br />และไม่รู้ว่าจะใช้แพทเทิร์นแม่แบบมาทำอะไรได้บ้าง ก็เป็นอันว่าไม่ประสบผลสำเร็จอีก<br />จนกระทั่งเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ผู้เขียนได้ลงทะเบียน<br />เรียนการตัดเย็บเสื้อแจ็คเก็ตอาจารย์ผู้สอนได้วัดตัวผู้เขียน<br />และบอกว่าขนาดตัวนี้ต้องใช้ไซด์ 8 เสียเวลาไป 8-9 ปีเต็มๆถึงเพิ่งจะเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนจะถ่ายทอดให้ผู้อ่าน<br />ที่สนใจในกระทู้นี้babahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2647456157871520123.post-23438857524016236852010-02-16T19:22:00.000-08:002010-02-16T20:13:52.097-08:001.บทนำ(อ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ได้จร้า)หลายคนคงจะมีปัญหาเรื่องการซื้อเสื้อผ้า ไม่ถูกใจตัวเอง หรือซื้อมาแล้วไม่พอดีตัว <br />สำหรับคนที่รูปร่างไมไ่ด้มาตรฐานกับเสื้อผ้าที่ตลาดทำมา <br />เดี๋ยวนี้ เสื้อผ้าราคาถูก ๆ สวย ๆ มีให้เลือกเยอะแยะมาก แต่บางคนก็หาที่ถูกใจเราไมไ่ด้ <br />เหมือนกับเจ้าของบลอคนะคะ แนะนำตัวเองก่อนนะคะ เจ้าของบลอคชื่อแพรวค่ะ<br />ตอนนี้แพรวกำลังเห่อ อยากตัดเสื้อผ้าใส่เอง เพราะว่าหาซื้อแล้วมันไมไ่ด้ขนาดเรา<br />แล้วก็อีกอย่าง มันไม่สวยเหมือนที่เราอยากจะได้ อะไรที่เราอยากได้ เราก็ใส่ไม่ได้ <br />แต่ถ้าเราไม่แคร์ เงินเดือนเยอะหน่อย เราก็ไปที่ร้านแล้วสั่งตัดเอาง่ายกว่าไม่ต้องมานั่งทำเองให้เมื่อยตุ้ม + ปวดขมอง<br />แต่ว่า สำหรับคนงบน้อย แล้วอยากใส่ในแบบของตัวเอง ง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ถูกใจ<br />แพรวก็นั่ง ๆ ด้วยความว่างมากของแพรว ก็ปรึกษาอาจารย์ google นี่แหละค่ะ <br />เป็นที่ปรึกษาที่ดี แต่วันนี้แพรวก็ได้เจอบอทความนึงเกี่ยวกับเรื่องแพทเทิร์น แพรวก็เลยขออนุญาตินำบทความนั่น มาเก็บไ้ว้<br />เื่พื่อเอาไว้ศึกษาอีกที จริง ๆ แพรวกลัวลิ้งค์เข้าไมไ่ด้ ก็เลยต้องเอามาใส่บลอคตัวเองไว้ก่อนคะ่ <br />เครดิตคุณแจง<br />pradid.rattana.org/dynamicV2/link_content.php?content_id=1203<br /><br />17/02/2553babahttp://www.blogger.com/profile/05849208176234835032noreply@blogger.com0